1. บนหน้าเมนูหลักบนไอโฟนของคุณ กดเลือกโปรแกรม “App Store” ขึ้นมาครับ |
2. เมื่อเรียก App Store ขึ้นมาแล้วให้ดูที่แถบตัวเลือกด้านล่างแล้วกดเรียก “Search” ขึ้นมาเพื่อพิมพ์ชื่อโปรแกรมที่เราต้องการค้นหา |
3. ให้พิมพ์ชื่อโปรแกรม “eagleeyes” (ไม่มีวรรค) ลงไปแล้วกด search หากว่าไอโฟนของคุณสามารถติดต่ออินเตอร์เน็ตได้ก็จะมีตัวเลือกขึ้นมาสอง โปรแกรมครับ เป็น Eagle Eyes ทั้งคู่ให้เลือก Eagle Eyes Lite ครับ |
4. เมื่อเลือก Eagle Eyes-Lite ขึ้นมาแล้วให้กด “FREE” และกด “INSTALL” อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟนของเรากด "FREE" และกด "INSTALL" อีกครั้งเพื่อทำการดาวน์โหลดโปรแกรมลงบนไอโฟน |
5. ก่อนดาวน์โหลดเราต้องใส่ itunes ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดครับ |
6. หลังจากใส่ชื่อผู้ใช้และพาสเวิร์ดแล้วตัวโปรแกรม Eagle Eyes Lite ก็จะถูกติดตั้งลงบนไอโฟนของเราครับ |
การเปิดใช้โปรแกรม Eagle Eyes Lite |
1. หลังจากที่เราได้ติดตั้งโปรแกรมแล้วให้เรากดเลือกที่ตัวโปรแกรมเลยครับ (สัญลักษณ์รูปหน้านกเหยี่ยว) |
2. หน้าแรกที่เราจะเห็นคือส่วนของ address book ให้เรากดเครื่องหมาย + ด้านล่างเพื่อใส่ที่อยู่ข้อมูลการดูกล้องวงจรปิดของเราครับ |
3. หน้าต่อไปที่จะขึ้นมาคือหน้าที่ใช้ป้อนข้อมูลครับ (ส่วนของข้อมูลการเรียกดูนั้น ip address, port, username, password คุณจะได้รับจากทีมงานของ บ.ลิงค์มาสเตอร์ ตอนที่ติดตั้งเสร็จครับ หรือสามารถโทรถามได้ที่บริษัทโดยการแจ้งชื่อวันที่ติดตั้งเสร็จและหมายเลข ลูกค้าครับ) หลังจากที่ป้อนข้อมูลเสร็จแล้วให้กด save ครับ |
สังเกตได้ว่าจะมี account ที่เราเพิ่งใส่ข้อมูลไปปรากฏอยู่บนหน้า address book หากต้องการแก้ไขให้กดรูปดินสอด้างล่าง หากต้องการที่จะลบ account นั้นทิ้งให้กดที่รูปถังขยะครับ ถ้าทำตามขั้นตอนแล้วระบบมีการเซ็ตอย่างถูกต้องก็จะสามารถดูภาพจากระบบวงจรปิดที่ทางทีมงานเราไปติดตั้งครับ |
แอ๋มจัง
วันพุธที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2555
กล้องวงจรปิดผ่านมือถือ
วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555
โปรแกรม Internet Download Manager (IDM)
หลังจากที่คุณติดตั้งโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเรียกเข้าโปรแกรมได้จากไอคอนของโปรแกรม ที่จะปรากฏอยู่ที่มุมขวามือด้านล่างของหน้าจอ Desktop (Syste เรียกเข้าโปรแกรมจากทางเมนู Start / Programs / Internet Download Manager
ซึ่งคุณจะพบกับหน้าจอหลักของโปรแกรม ดังรูป
ซึ่งคุณจะพบกับหน้าจอหลักของโปรแกรม ดังรูป
1. Add URL -- เป็นปุ่มที่ใช้ป้อนตำแหน่งของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด หรือก็คือ URL ของโปรแกรมนั้นๆ เช่น http://www.carabao.net/webboard/tsunami.mp3 หรือ http://www.registryfix.com/registryfix.exe
2. Resume -- เป็นปุ่มที่ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ ซึ่งอาจจะเกิดจากเน็ทหลุด หรือไฟดับ ทำให้การดาวน์โหลดขาดช่วง คุณก็สามารถใช้ปุ่มนี้ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ต่อเนื่องจากจุดที่ขาดช่วงได้ เมื่อคุณต่อเข้ามาในเน็ทอีกครั้งหนึ่ง
2. Resume -- เป็นปุ่มที่ใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ ซึ่งอาจจะเกิดจากเน็ทหลุด หรือไฟดับ ทำให้การดาวน์โหลดขาดช่วง คุณก็สามารถใช้ปุ่มนี้ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ต่อเนื่องจากจุดที่ขาดช่วงได้ เมื่อคุณต่อเข้ามาในเน็ทอีกครั้งหนึ่ง
* ความสามารถในการดาวน์โหลดต่อเนื่องหรือ Resume นั้น ขึ้นอยู่กับ Server ที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ด้วยว่ายินยอมหรือรองรับการดาวน์โหลดแบบต่อเนื่องหรือไม่ หากไม่รองรับ คุณจำเป็นต้องเริ่มดาวน์โหลดใหม่ทั้งหมด
3. Stop -- เป็นปุ่มที่ใช้หยุดการดาวน์โหลดไฟล์ ซึ่งหาก Server ที่คุณดาวน์โหลดไฟล์ รองรับการดาวน์โหลดไฟล์แบบต่อเนื่อง (Resume) คุณก็สามารถหยุดการดาวน์โหลดเพื่อไปทำธุระ และกลับมาดาวน์โหลดต่อเมื่อมีเวลา
4. Stop All -- ทำงานเหมือนกับปุ่ม Stop แต่ใช้ในกรณีที่ต้องการหยุดการดาวน์โหลดไฟล์ ที่กำลังดาวน์โหลดอยู่ ณ ขณะนั้นทั้งหมด
5. Delete -- เป็นปุ่มที่ใช้ลบรายการจากในลิสต์ดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM (จะได้กล่าวถึงในข้อ 13.) การลบไฟล์ดังกล่าวนี้ เป็นเพียงการลบรายการจากในลิสต์รายการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM เท่านั้น ไม่มีผลกระทบหรือไม่ได้ลบไฟล์ที่เราได้ดาวน์โหลดมาแล้ว
6. Delete Completed Files -- ทำงานเหมือนกับปุ่ม Delete แต่เป็นการลบรายการจากในลิสต์ดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ซึ่งดาวน์โหลดโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว (ที่มีสถานะเป็น Complete ซึ่งจะแสดงอยู่ในลิสต์รายการดาวน์โหลด ที่จะได้กล่าวถึงในข้อ 13.) ออกไปในคราวเดียวกัน
7. Options -- ปุ่มที่ใช้ปรับแต่งการทำงานของโปรแกรม IDM (จะได้กล่าวถึงโดยละเอียดต่อไป)
8. Scheduler -- ปุ่มกำหนดตารางเวลาที่จะใช้ดาวน์โหลดไฟล์ที่ยังอยู่ในคิว (Queue) ที่แสดงในหน้าต่างลิสต์รายการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM เช่น เมื่อคุณพบไฟล์ที่ต้องการจะดาวน์โหลด คุณอาจจะไม่ได้ทำการดาวน์โหลดในทันที (ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม)
9. Start Queue -- ปุ่มที่สั่งให้โปรแกรม IDM ดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่ในคิว (Queue) ซึ่งยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ
10. Stop Queue -- ปุ่มที่สั่งให้โปรแกรม IDM หยุดการดาวน์โหลดไฟล์ที่อยู่ในคิว (Queue)
11. Tell a Friend -- ปุ่มที่ใช้เรียกโปรแกรม E-Mail จากในเครื่องของคุณ เพื่อแนะนำโปรแกรม IDM ให้กับเพื่อนของคุณทราบ
12. Categories -- การแบ่งประเภทของไฟล์ที่อยู่ในลิสต์รายการดาวน์โหลด เช่น ไฟล์ที่โปรแกรม IDM ทำการดาวน์โหลดทั้งหมด (All Downloads) , รายชื่อไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ (Unfinished) , รายชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลดเรียบร้อยแล้ว (Finished) นอกจากนี้ ในส่วนของรายชื่อไฟล์ที่ถูกดาวน์โหลดทั้งหมด ยังได้รับการแยกประเภทเป็นไฟล์ที่ถูกบีบอัด (Compressed) ไฟล์เอกสาร (Documents) ไฟล์เสียง (Music) ไฟล์โปรแกรม (Programs) ไฟล์วีดีโอ (Video) เพื่อให้คุณสะดวกต่อการตัดสินใจดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับไฟล์แต่ละประเภทต่อไป
13. ลิสต์รายการดาวน์โหลด เป็นส่วนที่ใช้แสดงรายการไฟล์ที่ถูกดาวน์โหลดโดยโปรแกรม IDM ทั้ง ที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว และยังไม่เรียบร้อย รวมทั้งไฟล์อยู่ในคิว
- File Name ชื่อไฟล์ที่ดาวน์โหลด
- Q หากไฟล์อยู่ในคิว (Queue) ที่จะถูกดาวน์โหลด (ไฟล์ที่ยังดาวน์โหลดไม่สมบูรณ์) จะปรากฏเป็นเครื่องหมาย +
- Size ขนาดของไฟล์ที่จะดาวน์โหลด
- Status สถานะของการดาวน์โหลด หากโหลดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะขึ้นเป็นคำว่า Complete แต่หากยังดาวน์โหลดไม่เสร็จ จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ของส่วนที่ดาวน์โหลดมาแล้ว
- Time-left ระยะเวลาที่คาดว่าจะดาวน์โหลดไฟล์เสร็จ (โดยประมาณ)
- Transfer rate อัตราความเร็วในการดาวน์โหลด
- Last Try … หากมีการดาวน์โหลดไฟล์ใดไฟล์หนึ่งมากกว่า 1 ครั้ง ในช่องนี้จะแสดงเป็นวันที่และเวลาในการดาวน์โหลดครั้งล่าสุด
- Description รายละเอียดของไฟล์ที่ดาวน์โหลด เช่น หากเป็นไฟล์ Mp3 ก็จะแสดงอัตราบิทเรท , ความยาวของเพลง
วิธีการดาวน์โหลดไฟล์โดยโปรแกรม IDM
การดาวน์โหลดไฟล์ในโปรแกรม IDM สามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น
1. เข้าไปที่หน้าจอหลักของโปรแกรม IDM จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Add URL (ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น) ซึ่งจะปรากฏหน้าจอให้คุณป้อน URL ของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด เช่น http://www.carabao.net/webboard/tsunami.mp3 หรือ http://www.registryfix.com/registryfix.exe
2. เมื่อคุณเจอลิ้งค์ของไฟล์ที่คุณต้องการจะดาวน์โหลด คุณสามารถคลิกขวาที่ลิ้งค์นั้น แล้วเลือก Download with IDM
3. การดาวน์โหลดโดยใช้รถเข็นดาวน์โหลด
ของโปรแกรม IDM การดาวน์โหลดด้วยวิธีนี้ ก่อนอื่นคุณต้องเปิดใช้งานระบบรถเข็นดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ก่อน โดยเข้าไปที่หน้าจอหลักของโปรแกรม IDM คลิกที่เมนู URL จากนั้นทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Show drop targetซึ่งเมื่อคุณเจอลิ้งค์โปรแกรมที่คุณต้องการดาวน์โหลด ก็เพียงแค่ใช้เมาส์ลากลิ้งค์ดังกล่าว มาไว้ที่รถเข็นดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ที่จะแสดงอยู่ที่มุมล่างขวามือของหน้าจอ (คุณสามารถลากมันไปไว้ในตำแหน่งที่คุณต้องการได้)
4. การดาวน์โหลดโดยใช้คำสั่งก๊อปปี้ URL ที่เป็นข้อความ (ไม่ใช่ลิ้งค์) ซึ่งวิธีนี้จะมีประโยชน์เวลาที่คุณพบ URL ของไฟล์ที่ต้องการจะดาวน์โหลด เช่น http://www.registryfix.com/registryfix.exe แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ไม่ได้ทำเป็นลิ้งค์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดได้ทันที คุณก็สามารถดาวน์โหลดได้จากโปรแกรม IDM ได้ด้วยวิธีง่ายๆ
แต่ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปกำหนดให้ใช้ความสามารถนี้จากหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM (กำหนดเพียงครั้งเดียว) โดยคลิกที่เมนู Downloads เลือก Optionsในแท็บ General ให้คุณทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Automatical ly start downloading of URLs placed to clipboard
จากนั้นเมื่อคุณเจอลิ้งค์ดาวน์โหลดโปรแกรมที่เป็น URL แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ อาจจะไม่ได้ทำลิ้งค์ให้ คุณก็เพียงแค่ลากเมาส์ทำไฮไลท์คลุมข้อความ URL ดังกล่าวไว้ จากนั้นเลือกคำสั่ง Copy
โปรแกรม IDM ก็จะขึ้นหน้าจอให้ยืนยันการดาวน์โหลด ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกดาวน์โหลดด้วยวิธีการใดก็ตาม หน้าจอที่แสดงการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ก็จะแสดงผลขึ้นมาเหมือนๆ กัน ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้นมานี้ จะแสดง URL ของไฟล์ที่คุณกำลังจะดาวน์โหลด , โฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บไฟล์ที่ดาวน์โหลด (คุณสามารถคลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บได้)
หากคุณไม่ต้องการดาวน์โหลด ณ ขณะนั้น คุณสามรถคลิกที่ปุ่ม Download Later เพื่อเก็บไฟล์ดังกล่าวเข้าคิว (Queue) ไปทำการดาวน์โหลดเมื่อคุณมีเวลาสะดวก (คุณสามารถตั้งเวลาดาวน์โหลด ในช่วงเวลาที่คุณต้องการได้จากปุ่ม Scheduler ในหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น)
แต่หากคุณต้องการเริ่มการดาวน์โหลดทันที ให้คุณคลิกที่ปุ่ม Start Download เพื่อเริ่มการดาวน์โหลดไฟล์ในทันที ซึ่งจะปรากฏหน้าจอแสดงการดาวน์โหลดขึ้นมา
4. การดาวน์โหลดโดยใช้คำสั่งก๊อปปี้ URL ที่เป็นข้อความ (ไม่ใช่ลิ้งค์) ซึ่งวิธีนี้จะมีประโยชน์เวลาที่คุณพบ URL ของไฟล์ที่ต้องการจะดาวน์โหลด เช่น http://www.registryfix.com/registryfix.exe แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ไม่ได้ทำเป็นลิ้งค์ให้คุณคลิกเพื่อดาวน์โหลดได้ทันที คุณก็สามารถดาวน์โหลดได้จากโปรแกรม IDM ได้ด้วยวิธีง่ายๆ
แต่ก่อนอื่นคุณต้องเข้าไปกำหนดให้ใช้ความสามารถนี้จากหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM (กำหนดเพียงครั้งเดียว) โดยคลิกที่เมนู Downloads เลือก Optionsในแท็บ General ให้คุณทำเครื่องหมายหน้าบรรทัด Automatical ly start downloading of URLs placed to clipboard
จากนั้นเมื่อคุณเจอลิ้งค์ดาวน์โหลดโปรแกรมที่เป็น URL แต่ทางคนที่บอก URL ไว้ อาจจะไม่ได้ทำลิ้งค์ให้ คุณก็เพียงแค่ลากเมาส์ทำไฮไลท์คลุมข้อความ URL ดังกล่าวไว้ จากนั้นเลือกคำสั่ง Copy
โปรแกรม IDM ก็จะขึ้นหน้าจอให้ยืนยันการดาวน์โหลด ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกดาวน์โหลดด้วยวิธีการใดก็ตาม หน้าจอที่แสดงการดาวน์โหลดของโปรแกรม IDM ก็จะแสดงผลขึ้นมาเหมือนๆ กัน ในหน้าจอที่ปรากฏขึ้นมานี้ จะแสดง URL ของไฟล์ที่คุณกำลังจะดาวน์โหลด , โฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บไฟล์ที่ดาวน์โหลด (คุณสามารถคลิกปุ่ม Browse เพื่อเลือกโฟลเดอร์ที่จะจัดเก็บได้)
หากคุณไม่ต้องการดาวน์โหลด ณ ขณะนั้น คุณสามรถคลิกที่ปุ่ม Download Later เพื่อเก็บไฟล์ดังกล่าวเข้าคิว (Queue) ไปทำการดาวน์โหลดเมื่อคุณมีเวลาสะดวก (คุณสามารถตั้งเวลาดาวน์โหลด ในช่วงเวลาที่คุณต้องการได้จากปุ่ม Scheduler ในหน้าจอหลักของโปรแกรม IDM ที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในตอนต้น)
แต่หากคุณต้องการเริ่มการดาวน์โหลดทันที ให้คุณคลิกที่ปุ่ม Start Download เพื่อเริ่มการดาวน์โหลดไฟล์ในทันที ซึ่งจะปรากฏหน้าจอแสดงการดาวน์โหลดขึ้นมา
วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2555
อุปกรณ์นำทางหรือติดตาม
DWAY DWN-411 เครื่องนำทาง (GPS Navigator) ใหม่ล่าสุดจากลีโอน่า ที่จะทำให้การใช้งานเนวิเกเตอร์เป็นเรื่องง่าย และได้ผลที่แม่นยำมากที่สุด ด้วยระบบนำทางผ่านดาวเทียม (GPS Tracker) พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแม้ขณะใช้งานบนรถ ทำให้มั่นใจได้ถึงความแม่นยำ และปลอดภัย |
วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554
จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์
ความหมายของจริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์
จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ หมายถึง หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ หรือควบคุมการใช้
ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ในทางปฏิบัติแล้วการระบุว่าการกระทำสิ่งใดผิดจริยธรรมนั้น อาจกล่าวได้ไม่ชัดเจนมากนัก
ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของสังคมในแต่ละประเทศด้วย
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคอมพิวเตอร์
มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลสารสนเทศ และเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่รวดเร็ว ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรม
ต่าง ๆ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน และหน่วยงานงานธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใน 2-3 ปีข้างหน้าความก้าวหน้า
ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จะมีการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การสื่อสาร เครือข่ายไร้สาย
และเครือข่ายเคลื่อนที่ ตลอดจนเทคโนโลยีหุ่น
มนุษย์ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้นำอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเหล่านั้นมาช่วยอำนวย
ความสะดวก ลดขั้นตอนการทำงาน ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต หรือแม้แต่การช่วยชีวิตมนุษย์ เช่น การใช้หุ่นยนต์ในการเก็บกู้ระเบิด
และการผ่าตัดรักษาโรค
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากมายเพียงใดก็ตาม หากพิจารณาอีกด้านหนึ่งแล้ว คอมพิวเตอร์ก็อาจ
จะเป็นภัยได้เช่นกัน หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังหรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ในการการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันในสังคม
ในแต่ละประเทศจึงได้มีการกำหนดระเบียบ กฎเกณฑ์ รวมถึงกฎหมายที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดจริยธรรม
ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การกระทำที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เช่น
1. การใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความรำราญ
2. การใช้คอมพิวเตอร์ในการขโมยข้อมูล
3. การเข้าถึงข้อมูลหรือคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. การละเมิดลิขสิทธิ์
จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์ หมายถึง หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ หรือควบคุมการใช้
ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ในทางปฏิบัติแล้วการระบุว่าการกระทำสิ่งใดผิดจริยธรรมนั้น อาจกล่าวได้ไม่ชัดเจนมากนัก
ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของสังคมในแต่ละประเทศด้วย
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากคอมพิวเตอร์
มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูล ประมวลผลสารสนเทศ และเป็นเครื่องมือการสื่อสารที่รวดเร็ว ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรม
ต่าง ๆ ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน และหน่วยงานงานธุรกิจมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ใน 2-3 ปีข้างหน้าความก้าวหน้า
ด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จะมีการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การสื่อสาร เครือข่ายไร้สาย
และเครือข่ายเคลื่อนที่ ตลอดจนเทคโนโลยีหุ่น
มนุษย์ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้นำอุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเหล่านั้นมาช่วยอำนวย
ความสะดวก ลดขั้นตอนการทำงาน ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต หรือแม้แต่การช่วยชีวิตมนุษย์ เช่น การใช้หุ่นยนต์ในการเก็บกู้ระเบิด
และการผ่าตัดรักษาโรค
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์มากมายเพียงใดก็ตาม หากพิจารณาอีกด้านหนึ่งแล้ว คอมพิวเตอร์ก็อาจ
จะเป็นภัยได้เช่นกัน หากผู้ใช้ไม่ระมัดระวังหรือนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ในการการใช้งานคอมพิวเตอร์ร่วมกันในสังคม
ในแต่ละประเทศจึงได้มีการกำหนดระเบียบ กฎเกณฑ์ รวมถึงกฎหมายที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้เกิดจริยธรรม
ในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การกระทำที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม เช่น
1. การใช้คอมพิวเตอร์ทำร้ายผู้อื่นให้เกิดความเสียหาย หรือก่อให้เกิดความรำราญ
2. การใช้คอมพิวเตอร์ในการขโมยข้อมูล
3. การเข้าถึงข้อมูลหรือคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
4. การละเมิดลิขสิทธิ์
วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
HP slate 2
ผ่านมานั้นหากพูดถึงแท็บเล็ตจากทาง HP หลายๆ คนอาจจะนึกถึง TouchPad ที่ในตอนนี้ได้ตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว HP ก็ยังมีแท็บเล็ตอีกตัวก็คือ Slate 500 ที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 7
ที่ล่าสุดทาง HP ได้ทำการปล่อยของมาเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว กับ HP Slate 2 ที่หลักๆ แล้วได้รับการปรังปรุงในส่วนของสเปกภายในเป็น Intel Atom Z670 รวมไปถึงยังได้เพิ่มความจุเป็น SSD ขนาด 64GB mSATA เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 6 ชั่วโมง และที่สำคัญยังเพิ่มในส่วนของคีย์บอร์ด Swype เข้ามา
สำหรับสเปกเดิมๆ คือเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8.9 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 600 พิกเซล มาพร้อมกับกล้องด้านหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และติดตั้ง Windows 7 มาในตัว สนนราคาก็อยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,000 บาท) โดยจะพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในพฤศจิกายนนี้ ที่ถึงแม้ว่าทาง HP จะไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า Slate 2 จะรองรับ Windows 8 ในอนาคต แต่ก็คาดการณ์ได้ว่าน่าจะรองรับการทำงานอย่างแน่นอน
เชื่อว่าในการที่ HP ปล่อยแท็บเล็ตที่เป็น Windows ออกมาอีก แสดงว่ายังมีีความหวังกับแท็บเล็ตที่จะรองรับ Windows 8 ในอนาคต ต่างจาก TouchPad ที่ได้เคยทำพลาดและตายจากไปแล้วครับ
ขึ้นชื่อว่า Panasonic ถ้าให้นึกถึงก็คงเป็นโน้ตบุ๊ก Toughbook สุดแกร่ง แต่มาในตอนนี้คงต้องเพิ่มความคิดเป็นแท็บเล็ตสุดแกร่งด้วยซะแล้ว กับการที่ Panasonic นำเสนอ Toughpad A1 และ B1 แท็บเล็ต Android Honeycomb จำนวน 2 รุ่นด้วยกัน
ผ่านมานั้นหากพูดถึงแท็บเล็ตจากทาง HP หลายๆ คนอาจจะนึกถึง TouchPad ที่ในตอนนี้ได้ตายไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้ว HP ก็ยังมีแท็บเล็ตอีกตัวก็คือ Slate 500 ที่ใช้เป็นระบบปฏิบัติการ Windows 7
ที่ล่าสุดทาง HP ได้ทำการปล่อยของมาเป็นรุ่นที่ 2 แล้ว กับ HP Slate 2 ที่หลักๆ แล้วได้รับการปรังปรุงในส่วนของสเปกภายในเป็น Intel Atom Z670 รวมไปถึงยังได้เพิ่มความจุเป็น SSD ขนาด 64GB mSATA เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 6 ชั่วโมง และที่สำคัญยังเพิ่มในส่วนของคีย์บอร์ด Swype เข้ามา
สำหรับสเปกเดิมๆ คือเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 8.9 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 600 พิกเซล มาพร้อมกับกล้องด้านหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และติดตั้ง Windows 7 มาในตัว สนนราคาก็อยู่ที่ 699 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,000 บาท) โดยจะพร้อมจำหน่ายอย่างเป็นทางการภายในพฤศจิกายนนี้ ที่ถึงแม้ว่าทาง HP จะไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า Slate 2 จะรองรับ Windows 8 ในอนาคต แต่ก็คาดการณ์ได้ว่าน่าจะรองรับการทำงานอย่างแน่นอน
เชื่อว่าในการที่ HP ปล่อยแท็บเล็ตที่เป็น Windows ออกมาอีก แสดงว่ายังมีีความหวังกับแท็บเล็ตที่จะรองรับ Windows 8 ในอนาคต ต่างจาก TouchPad ที่ได้เคยทำพลาดและตายจากไปแล้วครับ
ขึ้นชื่อว่า Panasonic ถ้าให้นึกถึงก็คงเป็นโน้ตบุ๊ก Toughbook สุดแกร่ง แต่มาในตอนนี้คงต้องเพิ่มความคิดเป็นแท็บเล็ตสุดแกร่งด้วยซะแล้ว กับการที่ Panasonic นำเสนอ Toughpad A1 และ B1 แท็บเล็ต Android Honeycomb จำนวน 2 รุ่นด้วยกัน
เริ่มจากรุ่น Toughpad A1 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 10 นิ้วแบบ Anti-Glare ความละเอียดหน้าจอที่ 1,024 x 768 พิกเซล สัดส่วนเดียวกับ iPad คือ 4:3 หน่วยประมวลผลเป็น Marvell dual-core ความเร็ว 1.2GHz มีหน่วยความจำภายในมาให้ 16GB และแรมขนาด 1GB นอกเหนือจากนั้นยังมีการติดตั้งกล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และกล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านเอาไว้อีกด้วย
ในส่วนของน้ำหนักอยู่ที่ 960 กรัม เรียกได้ว่าน้ำกว่าแท็บเล็ตทั่วไปพอสมควร ที่น่าจะมาจากวัสดุพิเศษที่เลือกมาเป็นส่วนประกอบเพื่อเสริมความแข็งแรง เพื่อป้องกันการกระแทก กันน้ำและกันฝุ่นละอองแบบที่แท็บเล็ตอื่นๆ ไม่สามารถให้ได้ อีกทั้งยังสามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 10 ชั่วโมงด้วย สนนราคาก็อยู่ที่ 1,299 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 39,000 บาท เรียกได้ว่าราคาสูงเอาเรื่องอยู่ที่เดียว เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ในตลาด
สำหรับรุ่น Toughpad B1 จะเป็นแท็บเล็ตขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ที่ทราบแต่เพียงว่าป้องกันการกระแทก กันน้ำและฝุ่นละอองเหมือนกัน แถมยังมีสายรัดมือซะด้วย ส่วนข้อมูลอื่นๆ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยแต่อย่างใด ว่าแล้วก็ชวนชมวีดีโอโปรโมตจาก Panasonic ที่แอบกันแท็บเล็ตคู่แข่งนิดๆ หน่อยๆ ครับ
ใครสนใจก็เก็บตังค์รอถอยได้เลยครับ โดยส่วนของผมจัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ต Android ตัวหนึ่งที่น่าเล่นมากๆ ทีเดียว ดูได้จากสเปกและดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงซอฟต์แวร์ครับ
พร้อมเผยรายละเอียดเต็มๆ แล้วนะครับ กับแท็บเล็ต Android – Asus Transformer Prime ที่ถือได้ว่าเป็นตัวแรกที่ใช้ชิปประมวลผล NVIDIA Tegra 3 ที่เป็นแบบ 4 แกนตัวแรกของโลก มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ขนาดความบางของตัวเครื่อง 8.3 ม.ม. เพียง 586 กรัมเท่านั้น (บางและเบากว่า Tab 10.1 เล็กน้อย) ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมหรูหราสวยงาม จัดได้มาว่าแนวเดียวกับ Ultrabook อย่าง Zenbook
ด้านการเชื่อมต่อครบครันทั้งพอร์ต mini-HDMI output และช่องต่อหน่วยความจำภายนอก microSD แน่นอนว่าจะมาพร้อมกับ Android เวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง Ice Cream Sandwich ที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้
สเปกอื่นๆ มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ใช้พาเนลคุณภาพสูงพิเศษอย่าง Super IPS+ ที่ให้สีสันที่สมจริงเป็นที่สุดรวมไปถึงให้มุมมองการรับชมที่กว้าง 178 องศา ส่วนความสว่างสูงสุดได้ถึง 600 nits อีกทั้งยังเลือกใช้กระจกแบบ Gorilla Glass ที่ป้องกันรอยขีดขวนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย มีแรมติดตั้งมาภายในความจุ 1GB ด้สนเซ็นเซอร์ต่างๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น GPS และ Gyroscope พร้อมระบบเสียงระดับสูง SonicMaster
ในด้านของกล้องเรียกได้ว่าจัดเต็มไม่แพ้สมาร์ทโฟนเลยทีเดียวกับกล้องด้านหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ auto-focus และรูรับแสงขนาดใหญ่ 2.4 ใช้เซ็นเซอร์ CMOS แบบ Back-illuminated เช่นเดียวกับ iPhone 4S อีกทั้งยังสามารถถ่ายภาพวีดีโอที่ความละเอียด 1080p กับใช้งาน Touch-to-focus ได้อีกด้วย ส่วนการใช้งานแบตเตอรี่ของ Transformer Prime ทาง Asus บอกข้อมูลมาว่าสามารถได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงด้วยกันสำหรับ keyboard docking ยังมีการติดตั้งทัชแพดเหมือนเดิม พร้อมพอร์ต USB 2.0 แป้นคีย์บอร์ดแบบ full-size และช่อง SD Card มาให้อีกด้วย ซึ่งถ้าเมืื่อต่อเข้ากับตัว Asus Transformer Prime จะใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ช.ม. เรียกได้ว่ามากกว่าไม่ต่อ keyboard docking ถึง 6 ช.ม.
โดย Asus Transformer Prime มีให้เลือก 2 สี และแบ่งออกเป็น 2 รุ่นตามขนาดความจุด้วยกัน คือ 32GB ราคา 499 เหรียญสหรัฐ (15,000 บาท) และ 64GB ราคา 599 เหรียญ สหรัฐ (18,000 บาท) ส่วน keyboard docking ได้มีการขายแยกต่างหากในราคาเพียง 149 เหรียญสหรัฐ (4,500 บาท)ใครสนใจก็เก็บตังค์รอถอยได้เลยครับ โดยส่วนของผมจัดได้ว่าเป็นแท็บเล็ต Android ตัวหนึ่งที่น่าเล่นมากๆ ทีเดียว ดูได้จากสเปกและดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงซอฟต์แวร์ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)